
ขิงจัดว่าเป็นยาอายุวัฒนะชั้นยอด
ขิงเป็นพืชสมุนไพรที่มีมาอย่างยาวนาน ใช้ในการปรุงอาหารและดูแลสุขภาพได้อย่างปลอดภัย ขิง มีประโยชน์ต่อร่างกายในหลาย ๆ ด้าน เพราะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีความสำคัญอย่างมากต่อร่างกายของเรา เช่น วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินซี เบต้าแคโรทีน ธาตุเหล็ก ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส แถมยังมีโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และเส้นใยจำนวนมากอีกด้วย ซึ่งประโยชน์ของขิงนั้น เราสามารถนำมาใช้ได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นราก เหง้า ต้น ใบ ดอก แก่น และผลก็ได้ทั้งนั้น
นานาประโยชน์ของสมุนไพร ขิง
1. ขิงช่วยลดระดับไขมัน คอเลสเตอรอล
ขิงช่วยลดระดับไขมัน คอเลสเตอรอล ด้วยการดูดซึมคอเลสเตอรอลจากลำไส้ แล้วปล่อยให้ร่างกายกำจัดออกทางอุจจาระ พร้อมทั้งช่วยลดน้ำหนักได้อีกด้วย เพราะว่าน้ำขิงมีฤทธิ์ร้อน เมื่อดื่มเข้าไปแล้วความร้อนที่ได้จะเข้าไปช่วยเผาผลาญพลังงานในร่างกาย ช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไกลโคเจนได้ดีขึ้น เมื่อเผาผลาญดีจึงมีส่วนช่วยลดน้ำหนักได้ดีมากขึ้นนั่นเอง
2. ขิงช่วยลดน้ำตาลในเลือด
ขิงมีสารที่มีคุณสมบัติกระตุ้นการทำงานของอินซูลินในร่างกายเรา ช่วยเพิ่มอัตราการนำน้ำตาลในร่างกายไปใช้ได้มากขึ้น จึงมีผลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง และปลอดภัยมากกว่าการใช้ยาลดระดับน้ำตาลในเลือด เพราะสามารถรับประทานได้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถรับประทานได้ในหลากหลายรูปแบบ แต่แนะนำว่าไม่ควรในรูปแบบของหวาน เพราะจะยิ่งเพิ่มระดับน้ำตาลเข้าไปอีก อาจจะทานเป็น
3. ขิงช่วยรักษาอาการปวดไมเกรน
ขิงสามารถใช้รักษาอาการปวดศีรษะได้ ทั้งชนิดปวดแบบสองข้าง และข้างเดียวหรือไมเกรน ผู้ที่มีอาการปวดศีรษะบ่อยๆ แนะนำให้ดื่มน้ำขิงเข้มข้นเป็นประจำ หรือไม่ก็รับประทานขิงสดบ่อยๆ สารเคมีที่อยู่ในขิงจะสามารถปรับสารไอโคซานอยด์ (eicosanoid) ทำให้อาการปวดศีรษะบรรเทาลง ซึ่งยังมีข้อมูลในการใช้ขิงเพื่อบรรเทาอาการปวดในร่างกาย จึงถือได้ว่าขิงเป็นสมุนไพรอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ป่วยไมเกรน และหากใครชื่นชอบการดื่มน้ำขิงอยู่แล้ว ก็สามารถจิบน้ำขิงอุ่นๆ เวลาปวดไมเกรนได้เช่นกัน
4. ขิงช่วยให้ประสิทธิภาพของสมองดีขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพของออสเตรเลีย Kathleen McFarlane ค้นพบว่า ผู้หญิงที่มีอายุในช่วง 50-60 ปี ที่รับประทานขิงเป็นประจำมีประสิทธิภาพของสมองดีขึ้น เพราะว่า ขิงมีส่วนช่วยให้ระบบการป้องกันเซลล์ประสาท (Neuroprotective function) ดีขึ้น นั่นก็หมายความว่า ขิงมีส่วนช่วยในการลดโอกาสการเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้
5. ขิงมีฤทธิ์เป็นยาแก้ปวดลดอาการอักเสบ
นอกจากจะช่วยบำรุงสมองแล้ว ขิงยังมีฤทธิ์เป็นยาแก้ปวดได้ดีอีกด้วย ซึ่งขิงมีประสิทธิภาพในการยับยั้งอาการอักเสบของข้อต่อและกล้ามเนื้อ เปรียบเสมือนยาบรรเทาปวด (Analgesic) สำหรับการบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ การรับประทานอาหารที่ประกอบด้วยขิงควบคู่กับการรับประทานยาปฏิชีวนะ ช่วยให้อาการปวดกล้ามเนื้อหายได้ไวขึ้น Pam Stone ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจากประเทศออสเตรเลียกล่าว
6. ขิงสามารถลดอาการจุกเสียด
สรรพคุณของขิงที่สามารถลดอาการจุกเสียดได้ดี เนื่องจากมีน้ำมันหอมระเหย ซึ่งสารออกฤทธิ์คือ เมนทอล (Menthol) ซีนีออล (Cineole) จะไปกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อที่ระบบทางเดินอาหารให้บีบตัวมากขึ้น จึงเกิดการขับลมออกมา ขิงยังช่วยป้องกันอาการคลื่นไส้อาเจียนระหว่างการเดินทาง ซึ่งขิงจะออกฤทธิ์โดยตรงต่อระบบทางเดินอาหาร ไม่ทำให้เกิดอาการง่วงนอน ดังฤทธิ์ข้างเคียงที่พบในยาแก้เมารถแผนปัจจุบัน
7. ขิงช่วยบรรเทาอาการของโรคภูมิแพ้
ขิงเป็นมือปราบโรคภูมิแพ้ได้ชะงัด เพราะในขิงมีความเผ็ดร้อนที่พอดี ความร้อนของขิงเมื่อรับประทานเข้าไป จะไปช่วยรักษาอุณหภูมิในร่างกายให้อบอุ่นตลอดเวลา ขิงจึงไปช่วยลดอาการ ไอ จาม และลดน้ำมูกได้ คุณสมบัติของขิงอีกอย่าง เมื่อขิงให้ความร้อน ขิงจึงเป็นตัวเปิดทางให้เลือดลมเดินได้สะดวก ขิงไปเปิดเส้นเลือด ให้สารอาหารไปเลี้ยงทั่วร่างกาย ทำให้เลือดลมสูบฉีดไหลเวียนได้ดี
การที่รับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมจากขิงเป็นประจำ สามารถช่วยบำรุงร่างกายได้ดี อย่างไรก็ตามควรทานอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมกับร่างกาย และควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่เป็นดีที่สุด